Mini review กับการไปดำน้ำลึกที่เรียกว่าจุดดำน้ำที่สวยที่สุดในไทยในเวลาแค่วันเดียว (ออกเช้า-เย็นกลับ)ในราคาสบายกระเป๋ากับเรือ liveaboard (อ่าวยังไง ไหนบอกไปวันเดียว) อยากรู้ว่าเป็นไง มาตามดูรีวิวพี่ลิงกันเล๊ยยยย
*ราคาดำน้ำลึกแบบเดย์ทริปเลื่อนไปดูด้านล่างเลย
เมื่อวันก่อนพี่ลิงกับเพื่อนๆได้ไปประเดิมดำน้ำลึกครั้งแรกของซีซั่น 2018 แบบวันเดย์ทริปมาแหละ ซึ่งเราสามารถเลือกวันได้ด้วยนะว่าเราอยากจะไปดำที่จุดไหน ครั้งนี้เราได้เลือกที่จะไปกองหินริชิริว จุดดำน้ำที่พี่ลิงชอบมากๆเพราะเป็นจุดชุมนุมของบรรดาปลาต่างๆหลายสายพันธ์ว่ายล้อมตัวเราตลอดทั้งไดว์ทำให้เราดำได้ไม่เบื่อเลยอีกทั้งตามซอกประการังก็มีสัตว์น้ำแอบอยู่ให้เราตามไปส่องตลอดเวลา ว่าแล้วก็ลุยกันเลย ตื่นแต่6.30เตรียมตัวที่โรงแรมมังกี้ไดว์เพราะรถจะมารับประมาณ 7.15 ส่วนใครมีรถไปเองก็สามารถไปเจอที่ท่าเรือบ้านน้ำเค็มเข้าซอยที่สามชื่อว่ามะขามคู่หรือท่าเรือเขาหลักแลนด์ดิสคอฟเวอรี่ได้เลย(อย่าเผลอไปรอที่ข้ามไปเกาะคอเขาทางตรงซอยแรกซะหล่ะ)
หากเพื่อนๆเคยไปเกาะสิมิลันจะสังเกตุเห็นว่าในตอนเช้าที่ท่าเรือทับละมุ(ท่าเรือหลัก)ที่จอดเทียบเรือของหลายๆบริษัทมารวมตัวกันทำให้บางวันคนเยอะเยอะมากมายแถมห้องน้ำก็มีน้อยไม่สะดวก ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
หลังจากรอเชคอินล้อมวงเชคชื่อทาง trip leader ก็มาทำการแนะนำเราให้รู้จักกับไกด์ที่เราจะต้องดำน้ำด้วยกันก่อนเพื่อทำความสนิทสนมกันซึ่งทีมพี่ลิงได้ดำกับตัว trip leader เดนนิส คนสวีเดน ดูแลดีมากแถมยังคอยให้ความรู้เกี่ยวกับการดำน้ำตลอดทั้งทริป (หากเราไม่สะดวกดำน้ำกับชาวต่างชาติก็สามารถรีเควสขอดำกับไกด์คนไทยได้เช่นกัน)
วันนี้คนขึ้นเรือสปีดโบ๊ทมากับเกือบ20คนสบายๆ ขอแนะนำว่าใครไม่อยากโดนคลื่นกระแทกอย่าเผลอไปนั่งหัวเรือทีเชียววว🤕 ทีนี้ก็มีการบริฟฟิ้งต่างๆเกี่ยวกับการสวมใส่เสื้อชูชีพ ห้ามเดินบนเรือ แจกยาแก้เมาเรือ บอกวิธีการใช้ห้องน้ำบนเรือและความปลอดภัยต่างๆในกรณีฉุกเฉิน โดยการไปกองหินริชิริวครั้งนี้ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชม.เท่านั้น!! 9.30 โมง ถึงแล้ววว ไวโครตตตต..
เอาละ วันนี้ทางกัปตันเรือแจ้งมาว่าช่วงเช้ามีคลื่นสูง จำเป็นที่เรือลภัสจะต้องมาแอบหลบลมอยู่ที่เกาะสุรินทร์ ซึ่งทำให้ไดว์แรกเราต้องดำที่นี่กันไปก่อน แต่ขอบอกว่า แทบไม่มีเรือไหนเลยที่มีการดำน้ำบริเวณนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากแถมเรือลภัส เรือliveaboardในช่วงต้นซีซั่นนั้นดำที่บริเวณนี้ 4 วัน ใน 1 อาทิตย์กันเลยย ทีนี้เพื่อนๆหายสงสัยกันรึยังว่าทำไมเราสามารถดำน้ำบนเรือliveaboard ได้อย่างไร แถมเรือลภัสเรานี้นี่เองที่สามารถจะนอนกี่คืนก็ได้เรือก็จะล่องไปเรื่อยๆตามจุดต่างๆหรือแม้กระทั่งมาแบบเดย์ทริปกับเรือสปีดโบ๊ทแบบพี่ลิงก็ได้เช่นกัน (เรือliveaboardลำนี้เป็นลำเดียวที่สามารถไปกองหินริชิริวแบบวันเดย์ทริปได้ ส่วนลำอื่นดำกับเรือสปีดโบ๊ทนะจ๊ะ)
เมื่อขึ้นเรือใหญ่ (ลภัส) เรียบร้อยแล้วทางเจ้าหน้าที่และเดนนิสผู้เป็นคนนำทีมก็ได้เริ่มกล่าวถึงกฏต่างๆบนเรือ เช่นการทานอาหาร กำหนดการดำน้ำ เวลาเข้าห้อง(สำหรับผู้ที่มาแบบนอนเรือ) ที่พิเศษก็คือเรือลำนี้มีห้องรับแขกที่คนมาแบบเดย์ทริปสามารถฝากสัมภาระต่างๆไว้ในห้องหรือนอนเล่นได้เลย
10 โมง ทางไกด์ของแต่ละทีมได้เรียกประชุมทีมถึงวิธีการดำน้ำในจุดนั้นๆ ว่าใครบัดดี้กับคนไหน วันนี้พวกเรา 3คนกับฝรั่งผู้ชายจากเยอรมัน รวม 4 คนก็ฟังคำอธิบายต่างๆว่าควรไปกันอย่างไร จุดนี้มีอะไรให้ดูบ้าง กระแสน้ำเป็นอย่างไร จบปั้ปเราทุกคนก็แยกย้ายไปเชคและจัดการกับอุปกรณ์ของตัวเอง (ที่นี่มีน้องๆบนเรือคอยบริการเซทอุปกรณ์ให้จริงๆแล้ว แต่การเข้าไปตรวจความเรียบร้อยด้วยตัวเองอีกครั้งนั้นสำคัญมากๆเพราะคนที่ใช้อุปกรณ์เหล่านั้นคือเรา) ขอบอกว่าน้องๆบนเรือทำหน้าที่กันดีทุกคน หากใครขาดตกบกพร่องอะไร แจ้งกับทีมงามได้เลยทุกคนพร้อมช่วยจัดหาทุกอย่างมาให้อย่างทันท่วงที
และแล้วก็ถึงเวลาลงไดว์แรกของวันนี้ที่เกาะสุรินทร์ พี่ลิงแต่งตัวพร้อมลงน้ำทำบัดดี้เชคและเชคออุปกรณ์เรียบร้อยแล้วว เตรียมตัวไปดูประการังแข็งที่รายล้อมหมู่เกาะสุรินทร์และฝูงนีโม่กันดีฟ่า
มีหลายช่วงที่เราเจอกระแสน้ำเย็นโดยรอบเกาะสุรินทร์ ทำให้หลายๆจังหวะตลอดทั้งไดว์มีสั่นยะเยือกกันบ้าง
จากภาพที่เห็นจะสังเกตได้ว่าทุกอย่างของที่นี่ยังอุดมสมบูรณ์และอุดมไปด้วยประการังหลากหลายสายพันธ์หลักๆเลยก็คือประการังโต๊ะ ประการังหูกวางและฝูงบ้านนี่โม่ที่อยู่ไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ส่วนสิ่งที่เป็นRareของที่นี้ก็คือ string ray ที่ชอบนอนอยู่บนพื้นทราย เป็นสัตว์ที่จริงๆแล้วไม่อันตรายแต่อย่างได้ไปแหย่กระเซ้าเย้าแหย่เชียวหละเพราะคุณก็รู้ดีกว่าหางปลายแหลมที่มีพิษของมันคร่าชีวิตคนมานักต่อนักแล้วเหมือนกัน พื้นที่โดยรวมของไซท์นี้ดำง่ายมากๆไม่มีกระแสน้ำแรงให้ต้องออกแรงแต่อย่างใดเพราะอยู่รายล้อมด้วยเกาะ และความลึกมากที่สุดเพียง 20-25 เมตรโดยประมาณเท่านั้นเอง พื้นที่ส่วนนอกส่วนใหญ่เป็นทรายก็จริงอยู่แต่ถ้าลองไปดำรอบในของเกาะรับรองว่าคุณอาจจะไม่เคยเจอประการังขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อนก็เป็นได้ เราจบไดว์แรกไปสวยๆด้วยเวลา 50นาที ถือว่าเป็นการรีเฟชรในรอบ 6 เดือนของพี่ลิงแบบดีเยี่ยม
ขึ้นมาถึงเรือ ถอดชุดออกก็ขึ้นไปดื่มน้ำทันทีเพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำระหว่างที่ดำในครั้งต่อไป อีกทั้งยังช่วยทำให้เลือดไหลเวียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราควรดำน้ำระหว่างพักไดว์ให้เพียงพออย่างสม่ำเสมอ
หลังจากทานข้าวเที่ยงที่แม่ครัวของเรือได้ทำแบบบุฟเฟ่อย่างอิ่มหนำก็ถึงเสลาที่พี่ลิงได้มีโอกาสสำรวจเรือลำนี้ไปในตัว
หลังจากพักผ่อนได้สักพักแล้วเราก็กลับมาบรีฟกับคนในทีมที่จะไดว์ในครั้งต่อไปคราวนี้เรือได้เคลื่อนตัวออกจากเกาะมาถึงจุดที่เรารอคอยอย่างกองหินริชิริวกันเสียที หลังจากกัปตันได้เชคสภาพอากาศและคลื่นลมแล้วว่าสามารถดำน้ำได้!! สำหรับคนที่ยังไม่รู้ กองหินริชิริวเป็นกองหินใต้น้ำที่ตรงยอดสุดของมันในบางครั้งอาจไม่โผล่ออกมาให้เห็น ทำให้เรือประมงหลายๆลำหรือแม้แต่เรือดำน้ำเองเกิดชนอยู่บ่อยครั้งในสมัยก่อน แต่สมัยนี้เรือทุกลำเห็นจะมีเรดาห์ตรวจจับแล้ว จับได้แม้กระทั้งว่าจุดไหนปลาเยอะด้วยซ้ำ !! ซึ่งกองหินริชิริวบ่อยครั้งที่ถูกเรือประมงนอกพื้นที่เข้ามาจับปลาในช่วงที่มีการปิดอุทยาน ซึ่งล่าสุดก็คือเมื่อไม่กี่สัปดาห์ช่วงเปิดฤดูกาลที่ผ่านมาเราพบซากอวนตาถี่ขนาดใหญ่ ถูกทอดทิ้งไว้ทำให้ประการังบางจุดเกิดความเสียหาย ทางนักดำน้ำจากฝั่งเขาหลักเองจึงได้ร่วมมือกันออกไปตัดอวนพวกนี้แล้วนำไปกำจัดอย่างทันท่วงที ซึ่งปัจจุบันเราก็ยังไม่รู้ถึงว่าเมื่อใดที่ไม่คนคอยดูแล ที่แหล่งนี้ก็ถูกล่วงละเมิดไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
กลับมาถึงไดว์สุดท้ายของวัน พี่ลิงลงมาเชคความพร้อมเหมือนทุกที ที่นี้เราก็ได้ไปดูกันแล้วว่าหลังจากที่หายไปหลายเดือนป่านนี้เทอเป็นไงบ้าง
เนื่องจากคลื่นค่อยข้างสูงแต่ไม่ถึงกับมาก ทำให้ครั้งนี้การลงน้ำไปต้องจับเชือกไต่กันลงมาเป็นกลุ่มๆ ซึ่งหากเราลงแบบไม่ใช้เชือกนั้นอาจจะยากกว่าปกติเพราะกระแสน้ำด้านบนนั้นค่อนข้างแรงมากทีเดียว
สิ่งแรกที่เห็นเลยคือไม่ว่าเราจะอยู่ตรงจุดไหนก็แล้วแต่พวกปลาเล็กปลาน้อยก็จะว่ายอยู่รอบตัวเราตลอดเวลาจนบางครั้งก็คิดว่ามันเยอะเกินไปมั้ยเนี่ย แต่ก็ฟินแบบสุดๆ มองดูปลาเพลินๆตลอดทั้งไดว์
หลังจากเราดำกันจนเพลินจนอากาศเหลือกันคนละ 40-50 บาร์ ก็พร้อมทำเซฟตี้สต๊อปที่จุดเชือกเส้นเดิม การดำริชิริวทำให้รู้เลยว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมปะการังอ่อนหลากสีและสัตว์เล็กสัตว์น้อยยังคงวนเวียนอยู่ในที่เดิมๆของมัน ถึงคราวนี้จะไม่เห็นสัตว์ใหญ่อย่างพวกแมนต้าหรือฉลามวาฬแต่อย่างใดก็ยังคงประทับใจกับที่แห่งนี้ไม่มีเปลี่ยนแปลง แม้ว่าภาพใต้น้ำยังคงน้อยไปหน่อยแต่ครั้งหน้าสัญญากลับมาจะเอาแบบจุใจมาให้ได้ดูกันอีกไม่นาน
หลังจากเราจบไดว์ที่สองกันอย่างสวยงาม ก็เก็บอุปกรณ์ล้างน้ำ และเปลี่ยนชุดเพื่อเตียมตัวกลับซึ่งขณะนั้นเวลาประมาณ บ่าย3แล้วว
ก่อนเราจะกลับกัน เดนนิสยังคงแจ้งหน้าที่ของลูกเรือว่าหากเราคนใดต้องการแสดงความมีน้ำใจก็สามารถให้ tip ลงในกล่องแก่พวกเค้าได้ตามอัธยาศัยหรือหากใครต้องการให้โดยตรงกับเจ้าตัวก็สามารถยื่นให้ได้เลยเช่นกัน
หลังจากนั้นเราก็ขึ้นเรือสปีดโบ๊ทลำเดิมกลับสู่ท่าเรือน้ำเค็ม ส่วนพวกที่จองแบบนอนเรือไว้ก็ส่งรอยยิ้มให้แก่พวกเราที่กำลังจะเดินทางกลับเข้าฝั่ง
ใครต้องการไปดำน้ำกับจุดดำน้ำที่สวยที่สุดแบบเรานั้นเห็นแล้วว่า ไปได้ง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องนอนเรือliveaboard 3-4วันก็สามารถไปได้เช่นกันเพียงแค่ให้พวกเราจัดการทั้งหมด เรายินดีให้คำปรึกษาและคำแนะนำเรื่องทริปดำน้ำ ที่พักและการเดินทางอย่างสนุกและปลอดภัย ส่วนใครต้องการจะจองแล้วก็ทักมาเลยกับเรา
ขอบคุณ Similan Seven Sea Club สำหรับทริปดำน้ำและดูแลพวกเราดีอย่างเสมอมา
ติดตามข่าวสาร
Facebook : Monkey Dive Thailand หรือโทร 087-8033011, 082-4249257
-จองห้องพัก Monkey dive hostel เขาหลัก
-ทริปดำนำ้ลึกสิมิลัน เกาะตาชัย เกาะบอน เกาะสุรินทร์ กองหินริชิริว
-ดำน้ำตื้นสิมิลัน เกาะสุรินทร์
-แพคเกจนอนเกาะสุรินทร์พร้อมเรียนคอร์สฟรีไดว์
-เรียนดำน้ำลึกหมู่เกาะสิมิลัน
-เรียนเซิร์ฟ
*ราคาดำน้ำลึกแบบวันเดย์ทริปแบบพี่ลิง
หมู่เกาะสิมิลัน 4,300 บาท
เกาะบอน 4,300 บาท
เกาะตาชัย 4,500 บาท
กองหินริชิริว 5,000 บาท
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
+ค่าอุทยานคนไทย 300 บาท ต่างชาติ 700 บาท
+ค่าเช่าอุปกรณ์ ครบเซท 500 บาท
Comments