รวมมาให้แล้ว 10 แหล่งเชคอินที่นักดำน้ำทั้ง scuba , free dive และเหล่าskin dive ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ทั่วทั้งประเทศไทย อ่าวไทยและอันดามันต้องมา
1.กองหินโผล่น้ำ หรือ กองหินริชิริว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินท์ พังงา (สามารถดำได้ตั้งแต่ 15 ต.ค.-15 พ.ค. ของทุกๆปี)
📍ทะเลฝั่งอันดามันเหนือ
✔ Scuba ✖ Free dive ✖ Skin dive
แน่นอนว่านี้คือแหล่งดำน้ำที่สมบูรณ์ที่สุดที่นึงของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เคยถูกจัดอันดับให้ติด 1 ใน 10 ดำน้ำที่สวยที่สุดในโลก (เมื่อหลายปีมาแล้ว) กองหินริชิลิว เป็นชื่อของกองหินใต้น้ำที่มีลักษณะคล้ายภูเขาลูกย่อมๆ ตั้งโดดเด่นสูงขึ้นมาจากฐานพื้นทรายใต้น้ำ ยอดหินปริ่มๆกับผิวน้ำ ในยามน้ำขึ้นสูงก็จะท่วมมิดไม่เห็นยอดหิน ส่วนตอนน้ำลงมากๆ ยอดหินจึงจะโผล่พ้นน้ำขึ้นมานิดหน่อย รอบข้างกองหินมีความลึกราว 25-35 เมตร ภายใต้นั้นมีโลกของฝูงปลาและสัตว์ทะเลรวมถึงปะการังอ่อนหลากสีม่วง แดง ชมพูรอบๆอยู่โดยรอบ เป็นกองหินที่มีลักษณะเหมือนศูนย์รวมแห่งสรรพชีวิต เป็นเสมือนคอนโดมิเนียมที่ตั้งขึ้นกลางผืนทะเลอันเวิ้งว้าง
สัตว์ทะเลน่าสนใจ : ฉลามวาฬ ปลากระเบนราหู ปลาไหลเมอเร่ย์ สกอเปี้ยนฟิช บาราคูด้า ม้าน้ำ ฟรอคฟิช กุ้งฮาเลควิน ปลาสัปปะรด
2.หินแดง หินม่วง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา กระบี่ (ช่วงธันวาคม-เมษายน)
📍ทะเลฝั่งอันดามันใต้
✔ Scuba ✖ Free dive ✖ Skin dive
คล้ายๆกันกับกองหินริชิริวลงมาทางตอนอันดามันใต้ (เขตจังหวัดภูเกตและกระบี่) จะมีภูเขาขนาดย่อมๆ 2 ลูกกลางเป็นหินพี่หินน้อง ทางตอนใต้ของหมู่เกาะลันตา ที่เป็นหินปริ่มน้ำที่มียอดสีแดงและสีม่วง ที่นี่จัดเป็นแหล่งดำน้ำที่ติดอันดับความสวยงามและสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย บริเวณโดยรอบจะเป็นแหล่งปะการังอ่อนหลากสีสัน และแน่นอนว่าสัตว์เล็กและใหญ่รวมถึงประการังอ่อนและSea fanทั้งสีแดง ม่วงมีให้เห็นกันโดยรอบ รวมทั้งเป็นแหล่งบ้านของสัตวน์ขนาดเล็กจำพวกไบรโอซัว (เป็นสัตว์ที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มโคโลนีขนาดเล็ก ที่สามารถสร้างโครงสร้างแข็งด้วยสารแคลเซียมคาร์บอเนต เมื่อดูอย่างผิวเผินแล้วจะมีลักษณะคล้ายปะการัง)
สัตว์ทะเลที่น่าสนใจ : ฉลามวาฬ กระเบนราหู บาราคูด้าขนาดใหญ่ Nurse shark Leopard shark Gree Reef Shark ปลาไหลเมอเร่
3.หมู่เกาะสิมิลัน เขตอุทยานเห่งชาติสิมิลัน (สามารถดำได้ตั้งแต่ 15 ต.ค.-15 พ.ค. ของทุกๆปี)
📍ทะเลฝั่งอันดามันเหนือ
✔ Scuba ✔ Free dive ✔ Skin dive
ฝั่งทะเลอันดามันเหนือที่พูดถึงไม่ได้คือหมู่เกาะสิมิลัน ด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติของหมู่เกาะสิมิลันที่มีจุดให้ดำน้ำมากกว่า 10 จุด ทั้งเกาะ 4-9 ที่ทางอุทยานได้เปิดให้เข้าชม(ส่วนเกาะ 1-3 นั้นไม่สามารถให้เข้าชมได้เพื่อเป็นเขตเพาะพันธ์เต่าทะเล)ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาชมความสวยงามอย่างไม่ขาดสายด้วยบางจุดเป็นหินทับซ้อนเพิ่มความท้าทายในการดำน้ำผ่านช่องหิน หรือแม้จะเป็นจุดที่ดำได้อย่างง่ายๆเหมาะที่จะใช้สอบเรียนดำน้ำ รวมทั้งสัตว์ทะเลและประการังหลายหลายชนิดที่ไม่ว่าจะดำสักกี่ครั้งก็จะทำให้รู้สึกว่าเป็นจุดใหม่ๆอยู่เสมอ
สัตว์ทะเลที่น่าสนใจ : ฉลามวาฬ ปลากระเบนราหูcleaning station บาราคูด้า ปลาวัว ม้าน้ำ ฟรอคฟิช กุ้งฮาเลควิน Nurse shark Leopard shark Gree Reef Shark ปลาหมึกยักษ์ ปลาไหลเมอเรย์ ปลาไหลริบบิ้น และอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน
4.หินใบ sail rock ตั้งอยู่ระหว่างเกาะเต่าและเกาะพงัน สุราษฎร์ธานี (สามารถดำน้ำได้ตลอดทั้งปี)
📍ทะเลฝั่งอ่าวไทยเหนือ
✔ Scuba ✔ Free dive ✔ Skin dive
เป็นอีกหนึ่งแห่งแหล่งดำน้ำในอ่าวไทย และอยู่ใกล้กับแหล่งดำน้าที่ดีของเกาะสมุย ตั้งอยู่ระหว่างเกาะสมุยและเกาะพะงัน และสามารถสามารถเดินทางไปจากเกาะเต่าได้ ใช้เวลาเดินทางเฉลี่ย 2 ชั่วโมง
หินเป็นหินแกรนิตขนาดใหญ่ กองหินที่ยื่นออกมาจากทะเล และหยดลงด้านล่างใต้ผิวน้ำไปที่ 30เมตร
ตรงหินใบมีสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลให้เข้ามาในพื้นที่ รวมทั้งกลุ่มใหญ่ๆของปลาหลายชนิดตามปกตอจะเห็นได้ที่นี่ นักดำน้ำที่โชคดี อาจจะได้เห็น ฉลามวาฬ หรือกระเบน ราหู ว่ายน้ำผ่านมาเยือนบริเวณนี้บางครั้ง ส่วนที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในที่ดำน้ำแห่งนี้ เรียกว่า The Chimney แนวตั้ง สวิมทรูผ่านโขดหินระยะยาว ที่นั่นมีสามทางเข้าและออก ที่ 18เมตร, 8เมตร และ 4เมตร และหลายพันตัวของปลาเล็กปลาน้อยที่อาศัยอยู่ด้านในถ้ำ หรือในทางกลับกัน เราอาจจะสามารถว่ายอยู่บริเวณผิวน้ำไปจนถึงบริเวณปากอุโมงค์ส่วนตื้น ก่อนที่จะปรับแรงลอยตัวให้เป็นลบ มุดลอดอุโมงค์จนถึงทางออกด้านลึกก็ได้ เป็นรูปแบบการดำน้ำที่ไม่ค่อยมีให้เห็นในไทยสักเท่าไหร่
สัตว์ทะเลที่น่าสนใจ : กลุ่มของปลา trevally ฉลามวาฬ หรือกระเบนราหู ปลาหูช้างครีบยาว ฝูงปลาสาก
boxer shrimps และ Hingebeak shrimps ปลาไหลเมอเร่ย์ ปลาไหลตาสีขาว. ปลาวัว (Trigger fish), ปลาโนรีเกล็ด (banner fish) ปลาผีเสื้อ (butterfly fish )และวงค์ปลาสลิดทะเล ( rabbit fish ) (Scorpion fish) ปลาการ์ตูน (clown fish)
5.เกาะหลีเป๊ะ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา สตูล (สามารถดำได้ทั้งปีแต่จะปิดเขตอุทยานช่วง 16 พ.ค.- 14 ต.ค. ของทุกปี)
📍ทะเลฝั่งอันดามันใต้
✔ Scuba ✔ Free dive ✔ Skin dive
เกาะหลีเป๊ะ เป็นบ้านของชาวเล เป็นชาวประมง เร่ร่อน กับ วัฒนธรรม ภาษา กับศาสนาของพวกเขาและเป็นเกาะเดียวที่ เป็นที่อยู่อาศัยอย่างถาวร ซึ่งอุทยานแห่งชาติ ตะรุเตาประกอบไปด้วยมากกว่า70 เกาะ
บริวณเขตอุทยานมีสถานที่ดำน้ำลึกหลักๆคือ สโตนเฮนจ์ (Stonehenge ) เราจะได้เห็นประการังอ่อนสีสวยๆเต็มไปทั่วบริเวณ บริเวณใต้น้ำบริเวณนี้ ยังมีประการังสีม่วงขึ้นเต็มจนได้ชื่อเรียกว่า เป็น "ทุ่งดอกลาแวนเดอร์" กองหินแปดไมล์ (8 Mile Rock) บริเวณนี้มีความลึกประมาณ 16-40 เมตร จำเป็นจะต้องมีทักษะการดำน้ำที่สูงพอสมควร แต่ก็เป็นจุดดำน้ำที่มีความท้าทายอย่างมาก เพราะอาจจะมีโอกาสได้เห็น ปลาฉลามวาฬ (Whale Shark) และ ปลากระเบนราหูปีศาจ (Devil Manta Ray) ปลาฉลามเสือดาว (Leopard Shark) และ บาราคูด้า (Baracuda) ได้ด้วย ซากเรือจมก้นทะเลลึก (Yong Hua Shipwreck )จมไปเมื่อ 16 ปีก่อนบริเวณนี้มีความลึก 30-40 เมตร ซึ่งเราจะได้เห็นซากเรือประมงลำใหญ่มาก ตัวเรือมีความยาวประมาณ 75 เมตร จมลึกอยู่ก้นทะลเกือบ 40 เมตร ส่วนที่ๆเหมาะแก่การดำน้ำตื้นมีหลักๆด้วยกันคือ เกาะหินงาม เกาะหินซ้อนและร่องน้ำจาบัง ที่สามารถนั่งเรือหางยาวแบบวันเดย์ทริปได้ตลอดทั้งปีแต่สิ่งที่ต้องระวังคือน้ำเชี่ยวมากๆ
สิ่งที่น่าสนใจ : ประการัง 7สีหรือทุ่งลาเวนเดอร์ใต้น้ำ ทั้งสีชมพู สีม่วง สีฟ้า สีแดง ดอกไม้ทะเล ดาวขนนก ฟองน้ำครกขนาดใหญ่
สัตว์ทะเลที่น่าสนใจ : ฉลามวาฬ ปลาหมึกกระดอง ปลาไหลเมอเรย์ ชุมชนม้าน้ำ3สี หอยเบี้ยลายเสือ Nudibranch ปลากระเบนราหูปีศาจ (Devil Manta Ray) ปลาฉลามเสือดาว (Leopard Shark) รวมทั้งปลาบาราคูดา (Baracuda)
6.เกาะห้า ลากูล กระบี่ (สามารถดำได้เกือบตลอดทั้งปี)
📍ทะเลฝั่งอันดามันใต้
✔ Scuba ✔ Free dive ✔ Skin dive
เป็นจุดดำน้ำสำคัญของอันดามันใต้เกาะ 5 เกาะอยู่ตรงหน้า เป็นจุดดำน้ำที่ดำเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ มีถ้ำใต้น้ำให้มุดเล่น ทุ่งปะการังอ่อนสีชมพูขนาดผิดหูผิดตา และยังเป็นบ้านของฉลามวาฬ ที่เราเจอน้องจุดได้ตอนกลางคืนอีกด้วย เกาะห้า ตั้งอยู่ระหว่าง เกาะพีพี หินแดง และหินม่วง จ.กระบี่ ใช้เวลาเดินทางจากเกาะลันตามาประมาณ ชั่วโมงเศษ หนึ่งในเกาะห้า หรือที่เราเรียกว่า เกาะห้าใหญ่ มีชายหาดเล็กๆ สามารถพักผ่อนและนอนอาบแดดได้อย่างดี นอกจากนี้จุดดำน้ำรอบๆบริเวณหมู่ เกาะยังมีความหลากหลาย ของปะการัง หลากชนิด หลากสีสัน ฝูงปลาประการังขนาดเล็ก
สิ่งที่น่าสนใจ : คูหาถ้ำใต้น้ำ ที่ใหญ่ที่สุด ที่ตั้งอยู่บริเวณเกาะห้าใหญ่ถ้ำใต้น้ำที่เกาะห้าใหญ่นี้เป็นถ้ำที่เราสามารถดำเข้าไปได้โดยไม่ต้องติดตั้งไฟส่องสว่าง มีทางเข้าและออกทางเดียวมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย ทัศนียภาพภาพในถ้ำ ใต้น้ำ นักดำน้ำจะได้ชมความงดงามของหินย้อย บริเวณ ผนังถ้ำ รวมถึงความงดงามของปากถ้ำยามแสงแดดสาดส่องจาก ผิวน้ำ
สัตว์ทะเลน่าสนใจ : ฉลามวาฬ ปลากระเบนราหู cleaning station , Ghost Pipefish , The Hawksbill Turtle
7.กองหินชุมพร บริเวณของเกาะเต่าเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี (สามารถดำได้เกือบตลอดทั้งปีช่วงที่ดีที่สุดคือ มิถุนายน-สิงหาคม)
📍ทะเลฝั่งอ่าวไทยเหนือ
✔ Scuba ✔ Free dive ✔ Skin dive
กองหินชุมพรเป็นกองหินใต้น้ำขนาดใหญ่ อยู่ห่างจากเกาะเต่าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 11 กิโลเมตรเป็นจุดดำน้ำฝั่งอ่าวไทยที่ดีที่สุด ใต้น้ำคือกองหินทั้ง 4 ที่เชื่อมต่อกันและปกคลุมด้วยปะการังและดอกไม้ทะเลหลากสี ความลึก 15 – 36 เมตร จึงเหมาะกับนักดำน้ำที่ผ่าน Advanced Open Water กองหินชุมพรมีลักษณะเป็นภูเขาหินใต้น้ำขนาดใหญ่ มีความลึกตั้งแต่ 12 -32 เมตร ยอดหินปกคลุมด้วยลานดอกไม้ทะเล ตามแนวกองหิน มีแส้ทะเลและปะการังดำขึ้นเป็นช่วงๆ ถึงไปแล้วจะไม่เจอฉลามวาฬแต่ความอุดมสมบูรณ์อีกทั้งกองหินยังคงให้ที่แห่งนี้มีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก
สัตว์ทะเลที่น่าสนใจ : ปลาการ์ตูนอินเดียนแดง ปะการังดำ เต่าทะเล เม่นทะเล ปลาไหลมอเรย์ ปลากระเบน ปลาหูช้าง ปลาสาก ปลาเก๋าดอกหมาก ปลาสากใหญ่ ปลาหูช้างขนาดยักษ์และยังเป็นจุดดำน้ำดูฉลามที่ดีที่สุดเแห่งหนึ่งในอ่าวไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งฉลามหัวบาตร
8.เกาะบอน เขตอุทยานแห่งชาติสิมิลัน พังงา (สามารถดำได้ตั้งแต่ 15 ต.ค.-15 พ.ค. ของทุกๆปี)
📍ทะเลฝั่งอันดามันเหนือ
✔ Scuba ✔ Free dive ✔ Skin dive
เกาะบอนไม่เกี่ยวกับเกาะเจมส์ บอนด์ที่อ่าวพังงาแต่อย่างใด แต่เป็นเกาะทางตอนเหนือของฝั่งอันดามันที่อยู่ถัดไปจากสิมิลันเกาะ 9 เกาะบอนไม่มีชายหาด ทุกด้านล้วนเป็นภูเขาหิน แตกต่างจากสิมิลันอย่างสิ้นเชิงเพราะว่ามันเป็นหินปูนไม่ใช่หินแกรนิต คุณสามารถที่จะเห็นถึงความแตกต่างกัน จากสีของใต้น้ำที่นี่ และ ทะเลที่อยู่รอบๆ เต็มไปด้วยสารอาหาร ที่แตกต่างกันสำหรับชีวิตทางทะเลที่จะกินเป็นอาหาร สัญลักษณ์ของเกาะบอนคือช่องทะลุที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเล จุดเด่นของเกาะบอนคือจุดดำน้ำลึก ที่นี่มีแนวปะการังน้ำลึกที่สมบูรณ์และสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางทิศใต้มีแนวปะการังหนาแน่น ตามผาหินใต้น้ำมีปะการังอ่อนสีชมพูเกาะอยูเต็มไปหมด แนวปะการังเขากวางก็มีแต่อยู่ในระดับลึกต้องดำน้ำแบบใช้ถัง ดังนั้นเกาะบอนจึงไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วไป แต่สำหรับนักท่องเที่ยวดำน้ำลึกแล้วล่ะก็ เกาะบอกที่หมายหลักที่พลาดไม่ได้ ทีนี่มักจะพบปลากระเบนราหู หรือ แมนต้า ได้ง่ายๆ จนหลายๆ คนกล่าวว่า เกาะบอนคือบ้านของแมนต้า นอกจากนี้ที่เกาะบอกยังเป็นจุดดำน้ำแบบไนท์ไดว์ หรือดำน้ำกลางคืนที่ดี ระดับน้ำไม่ลึกมากและมีอะไรๆ ให้ดูหลายอย่าง ข้อควรระวังบริเวณสันเขาตรงpinnacle กระแสน้ำค่อนข้างจะแรงมากมีหลายครั้งที่นักดำน้ำdrift หลุดออกไป
สัตว์ทะเลน่าสนใจ : งูทะเล กระเบนราหูและพวกencrusting sponges, zigzag clams และ seafans. ปลาไหล ปลาหลด กุ้ง ยุ่งอยู่กับการทำความสะอาด ปลาหมึกยักษ์ ปลาไหลเมอเรย์ ฉลามวาฬ ปลาสาก บาราคูด้า
9.เกาะตาชัย เขตอุทยานแห่งชาติสิมิลัน พังงา (สามารถดำได้ตั้งแต่ 15 ต.ค.-15 พ.ค. ของทุกๆปี)
📍ทะเลฝั่งอันดามันเหนือ
✔ Scuba ✔ Free dive ✔ Skin dive
เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมาหลังจากอุทยานปิดเกาะตาชัย ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถขึ้นบริเวณเกาะอย่างไม่มีกำหนดได้แล้ว จึงทำให้ผู้ประกอบการเรือดำน้ำลึกเท่านั้นสามารถพานักดำน้ำไปได้ จุดดำน้ำปัจจุบันจะเป็นกองหินตาชัยขนาดใหญ่ที่รูปร่างเหมือนกับโดม เกินจากการทับซ้อนกันของหินแกรนิต ความลึกสูงสุดอยู่ที่ 40เมตร มีจุดที่ต้องสวิมทรูผ่านช่องหินที่ทับลงมาทางตอนตะวันตกของเกาะ เป็นที่รวมตัวของปะการังแข็งชนิดต่างๆแต่ก็ยังมีบางส่วนที่เป็นปะการังอ่อนสีสันสดใสและSea fan ในตอนเหนือของกองหินจะเป็นกองหินขนาดใหญ่ที่รองลงมาจากด้านตะวันตกลึกสุดที่50เมตร
สัตว์ทะเลที่น่าสนใจ : ฉลามวาฬ ปลากระเบนราหูที่ผ่านมาให้เห็นบ่อยครั้ง ปลาไหลเมอเร่ย์ สกอเปี้ยนฟิช บาราคูด้า Bent Stick Pipefish, Leopard sharsk
10.เกาะโลซิน ปัตตานี (กรกฎาคม-กันยายนทุกๆปี)
📍ทะเลฝั่งอ่าวไทยใต้
✔ Scuba ✖ Free dive ✖ Skin dive
ปัจจุบันเกาะโลซินเป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยเป็นจุดดำน้ำที่อยู่ใต้สุดและเป็นเกาะที่เล็กที่สุดของประเทศไทยติดกับชายแดนภาคใต้ของเรา เกาะที่ไม่น่าเป็นเกาะที่เราอาจจะเคยเห็นภาพประภาคารเล็กๆ อยู่ด้านบน หลาย ๆคนเรียกว่า กองหินโลซิน เพราะมีเพียงกองหินพ้นน้ำทะเลลึกขึ้นมาไม่เกิน 100 ตารางเมตร ไม่มีอ่าวหลบลม แต่ต้องพูดว่าไม่มีที่ไหนที่มีปะการังเขากวางที่สมบูรณ์เท่าที่นี่ จุดที่เราอาจจะพบฉลามวาฬได้หลายๆตัวพร้อมพร้อมกันและ ยังเป็นจุดที่พบโรนินหรือฉลามหัวฆ้อนอีกด้วย
สิ่งที่น่าสนใจ : กองปะการังอ่อนขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปทุกอณู ป่าปะการังเขากวาง ซากรถถัง กองตู้โบกี้รถไฟและรถขนขยะที่นำมาทำปะการังเทียม
สัตว์ทะเลที่น่าสนใจ : ปลานกแก้วหัวโหนก โรนินหรือฉลามหัวฆ้อนที่แฝงตัวอยู่ตามพื้นทรายลึกมากๆ ฉลามวาฬ Devil ray,Skeleton shrimp , Eagle ray
Comments